ยินดีต้อนรับสู่บล็อกของนางสาว บงกช เพ่งหารัพย์ คะ

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่  11
วัน จันทร์ ที่ 17ตุลาคม  พ..2559

 


ในวันนี้เราได้ทำการลงพื้นที่เพื่อไปสอบถามความต้องการของผู้ปกครองในเรื่องที่ผู้ปกครองสนใจและอยากได้ความรู้เพิ่มเติม

ภาพกิจกรรมการลงพื้นที่











ความรู้ที่ได้จากการลงพื้นที่สำรวจความต้องการของผู้ปกครอง
        เราได้เห็นถึงการให้ความร่วมมือของผู้ปกครองส่วนใหญ่ในการทำทำแบบสอบถามของเราบางทันอาจจะไม่ให้ความร่วมมือ อาจจะเนื่องมาจากไม่ว่างทำให้เราได้ประสบการณ์จริงในการลงไปสำรวจในครั้งนี้ได้ใช้ความพยายามและพูดให้ผู้ปกครองให้ความร่วมมือกับเรา





วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่  10
วัน จันทร์ ที่ 10 ตุลาคม  พ..2559 เวลา 8 : 30 – 11 : 30 .

เนื้อหาการเรียน 

       วันนี้เราได้มีการนำเสนอโครงการของแต่ละกลุ่มหลังจากที่นำเสนอเสร็จอาจารย์ได้มีแบบตัวอย่างการทำโครงการของรุ่นพี่มาให้เราได้ศึกษาเพื่อเป็นแนวทางในการทำโครงการของเราเอง โดยองประกอบของโครงการประกอบด้วยดังนี้
1.ชื่อโครงการ
2.หลักการและเหตุผล
3.วัตถุประสงค์
4.เนื้อหา/หลักสูตร
5.เป้าหมาย
6.วันเวลาและสถานที่
7.รูปแบบการจัดโครงการ/เทคนิค
8.แผนการดำเนินงาน
9.งบประมาณ
10.ผลที่คาดว่าจะได้รับ
11.การติดตามและประเมินโครงการ
12.ผู้รับผิดชอบโครงการ

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
        จากที่เราได้ศึกษาดูตัวอย่างโครงการของรุ่นพี่เราได้เห็นถึงวิธีการจัดการแบ่งงานกัน ได้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียในการทำโครงการ เพื่อนนำมาเป็นแนวทางในการทำโครงการของกลุ่มเราเอง

การประเมิน
ประเมินตนเอง วันนี้เข้าเรียนตรงเวลาตั้งใจฟังเพื่อนแต่ละกลุ่มนำเสนอโครงการของแต่ละกลุ่มเป็นอย่างดี และศึกษาดูแบบตัวอย่างที่อาจารย์นำมาอย่างสนใจ
ประเมินเพื่อน วันนี้เพื่อนๆทุกคนเรียบร้อย ทุกคนตั้งใจเรียนกันเป็นอย่างดี

ประเมินอาจารย์ อาจารย์ได้ให้คำแนะนำการการทำโครงการ มีตัวอย่างให้นักศึกษาได้นำมาศึกษาเพื่อเป็นแนวทางหากมีข้อตกไหนที่จะต้องแก้ไขอาจารย์ก็ให้คำแนะนำให้แต่ละกลุ่มนำไปแก้ไข



วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่  9
วัน จันทร์ ที่ 3 ตุลาคม  พ..2559 เวลา 8 : 30 – 11 : 30 .

เนื้อหาการเรียน 
        วันนี้มีการนำเสนองานวิจัยของแต่ละกลุ่มและมีการแจกใบประเมินให้ทุกๆคนประเมินของแต่ล่ะกลุ่มโดยกลุ่มแรกที่ออกไปคือกลุ่มของดิฉันเอง

กลุ่มที่ 1 การพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยสำหรับผู้ปกครองจังหวัดมหาสารคาม
การพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยสำหรับผู้ปกครองจังหวัดมหาสารคาม
การศึกษาระดับ วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
ปีที่ทำวิจัย ประจำปีงบประมาณ 2549
ปีที่พิมพ์ 2551
ผู้วิจัย  รองศาสตราจารย์ สุมาลัย วงศ์เกษม
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
ประเด็นที่ 1  นโยบายของคณะรัฐมนตรี 2548 มีนโยบายพัฒนาคนและ
สังคมที่มีคุณภาพ  คือ  การทำให้คนมีความสุข
ประเด็นที่ 2  การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม  ครอบครัวอบอุ่น 
และสถานศึกษาที่เอาใจใส่อย่างใกล้ชิดด้วยการปลูกฝังความรู้ที่ทันโลก 
สร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ปกครองรู้ถึงวิธีการดูแลบุตรที่ถูกต้องตามระดับ
การพัฒนาของสมอง
ประเด็นที่ 3  เด็กวัยปฐมวัยได้รับความสนใจจากสังคมน้อยกว่าวัยอื่นๆ
เห็นได้จากการลงทุนจากภาครัฐที่ให้ความสำคัญกับวัยเรียนมากที่สุด 
เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบส่วนใหญ่ได้รับการดูแลจากมารดาโดยบิดา
ช่วยเหลือบ้าง แต่เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่จบการศึกษาเพียงชั้นประถม 
จึงทำให้มีข้อจำกัดทางความรู้ในการดูแลเด็ก ผู้จัดทำงานวิจัยจึงเห็นว่าควรให้ความสำคัญ
ในการจัดอบรมให้ความรู้ผู้ปกครองในการดูแลเด็กปฐมวัยที่ถูกต้องขึ้นมา
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยสำหรับผู้ปกครอง
จังหวัดมหาสารคาม              
2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อหลักสูตรการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย
สำหรับผู้ปกครองจังหวัดมหาสารคาม
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.ทำให้ได้หลักสูตรในการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพและ
สามารถนำไปใช้ในการฝึกอบรบผู้ปกครองได้เป็นอย่างดี                                                                          
2.ได้คู่มือการใช้หลักสูตรในการอบรบเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่เหมาะสมกับผู้เรียน                                  
3. ผู้ปกครองได้องค์ความรู้เกี่ยวกับการอบรบเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย ได้ทักษะในการแก้ปัญหาและจิตสำนึกในการเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุข



กลุ่มที่ 2 การพัฒนาและประเมินการใช้โปรแกรมการให้ความรู้ผู้ปกครองไทย ในการส่งเสริมทักษะทางการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษของเด็กปฐมวัยด้วยการสอนภาษาแบบโฟนิกส์ โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูส์สามัคคี
การศึกษาระดับ ศึกษาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต
มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต
ปีที่ทำวิจัย ปีการศึกษา 2554
ผู้วิจัย คุณแสงวิไล จารุวาที
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
ประเด็นที่ 1  ภาษาเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ใช้ในการติดต่อกัน เพื่อก่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ แนวคิด และทัศนคติต่างๆ ภาษาเป็นสิ่งจาเป็นสาหรับมนุษย์ในการสื่อสารกับผู้อื่น
ประเด็นที่ 2  ภาษาของมนุษย์ต้องเกิดจากการเรียนรู้ จากการศึกษาพัฒนาการทางภาษาของมนุษย์
ประเด็นที่ 3  ส่งเสริมให้ผู้ปกครองมีความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถที่จะส่งเสริมทักษะทางการอ่านภาษาอังกฤษของเด็กขณะอยู่ที่บ้าน

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.เพื่อส่งเสริมทักษะทางการอ่านภาษาอังกฤษของเด็กปฐมวัยด้วยการสอนภาษาแบบโฟนิกส์ และแผนการดำเนินการใช้โปรแกรมที่ได้ จากการวิจัยนี้ โรงเรียนสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรม เพื่อให้ผู้ปกครองมีความรู้ ความเข้าใจในการส่งเสริมทักษะทางการอ่านภาษาอังกฤษของเด็กปฐมวัย ให้สอดคล้องไปกับการ เรียนการสอนของทางโรงเรียน
2.เพื่อส่งเสริมทักษะทางการอ่านภาษาอังกฤษ ของเด็กปฐมวัยด้วยการสอนภาษาแบบโฟนิกส์ เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมในโรงเรียนที่มีลักษณะและแนวการเรียนการสอนคล้ายคลึงกัน โดยดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพและความพร้อม ของโรงเรียนนั้นๆ
3.ช่วยให้ผู้ปกครองเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการมีบทบาททางการส่งเสริมทักษะทางการอ่าน ภาษาอังกฤษของเด็กปฐมวัย






กลุ่มที่ 3 ความสัมพันธ์ระหว่างการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองกับความรู้ของผู้ปกครองในการสร้างเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย





กลุ่มที่ 4 การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของผู้ปกครองกับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน




กลุ่มที่ 5 ความสัมพันธ์ระหว่างการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองกับความรู้ของผู้ปกครองในการสร้างเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
การศึกษาระดับ ปริญญาศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการบริหารการศึกษา
มหาวิทยาลัย  เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ปีที่ทำวิจัย พ.ศ. 2554
 ผู้วิจัย สุภาวิณี  ลายบัว
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
ประเด็นที่ 1 ศึกษาระดับการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการสร้างเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยใน 4 ด้าน คือ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และสังคม ด้านสติปัญญา ด้านคุณธรรมจริยธรรม
ประเด็นที่ 2 ศึกษาระดับความรู้ของผู้ปกครองในการสร้างเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยใน 4 ด้าน คือ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และสังคม ด้านสติปัญญา ด้านคุณธรรมจริยธรรม
ประเด็นที่ 3 ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองกับความรู้ของผู้ปกครองในการสร้างเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ในสถานศึกษา เขตอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
ผู้บริหารสถานศึกษาสามารถนำข้อมูลมาเป็นข้อมูลในการให้ความรู้เพิ่มเติม หรือจัดกิจกรรม ที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้ปกครองสามารถพัฒนาเด็กปฐมวัยได้อย่างเต็มศักยภาพ
การวิจัยทำให้ทราบแนวทางในการวางแผน เพื่อให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยได้อย่างเหมาะสม
การวิจัยสามารถนำมาเป็นแนวทางสำหรับหน่วยงานที่จัดการศึกษาระดับอนุบาลศึกษาในการนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการวางแผน เพื่อให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยได้อย่างเหมาะสม

 การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
       เราสามารถนำความรู้ที่ได้จากการงานที่เพื่อนนำเสนอมาเป็นแนวทางในการจัดโครงการการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองได้ ทำให้เราเข้าใจถึงวิธีการไปให้ความรู้กับผู้ปกครองต้องมีการดำเนินงานอย่างไร

การประเมิน
ประเมินตนเอง วันนี้ตั้งใจฟังเพื่อนๆนำเสนองานอย่างตั้งใจ และตั้งใจนำเสนองานของกลุ่มตัวเอง
ประเมินเพื่อน วันนี้เป็นๆทุกคนน่ารักตั้งใจฟังการนำเสนองานเป็นอย่างดี

ประเมินอาจารย์  อาจารย์ตั้งใจฟังนักศึกษานำเสนองาน และคอยตั้งคำถามให้นักศึกษาได้ใช้ความคิด เพื่อที่จะได้คิดตาม

วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่  8
วัน จันทร์ ที่ 26 กันยายน พ..2559 เวลา 8 : 30 – 11 : 30 .



สอบกลางภาค


วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่  7
วันจันทร์ ที่ 19 กันยายน พ..2559 เวลา 8 : 30 – 11 : 30 .


เนื้อหาการเรียน




          วันนี้เป็นวันที่เราทั้งสองเซคได้มาเรียนร่วมกัน ในวันนี้เราได้เรียนเกี่ยวกับ รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองในสถานศึกษา มีดังนี้
ข่าวสารประจำสัปดาห์
เป็นข้อมูลข่าวสารที่ส่งไปถึงผู้ปกครองเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกิจกรรมของเด็กที่โรงเรียนและแนวทางการส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่เด็กที่บ้านเพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจและร่วมกันพัฒนาเด็กไปในทิศทางเดียวกัน 





อาจารย์ก็มีการให้เราได้ออกแบบ สื่อสารสัมพันธ์ถึงผู้ปกครอง

นำมาส่งในสัปดาห์หน้า



จดหมายข่าวและกิจกรรม
เป็นการนำเสนอความรู้ให้แก่ผู้ปกครอง ในชั้นเรียนให้รับรู้ถึงข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเด็ก โดยจัดส่งให้ผู้ปกครองในทุกสัปดาห์หรือตามความเหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่นำเสนอในจดหมายข่าวและกิจกรรมอาจจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังนี้
                        - ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเด็กและผู้ปกครอง
                        - กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการสำหรับผู้ปกครอง เช่น นิทาน ศิลปะ ภาษา ฯลฯ
                        - ความรู้สำหรับผู้ปกครอง ฯลฯ

ป้ายนิเทศให้ความรู้ผู้ปกครอง
จัดเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครองอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งสามารถจัดได้บริเวณหน้าชั้นเรียนของทุกห้องเรียน โดยนำข้อมูลความรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้ปกครอง จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น
                        - ข้อมูลจากนิตยสาร หนังสือพิมพ์ วารสาร
                        -  เกร็ดความรู้หรือสาระน่ารู้สำหรับผู้ปกครอง
                        - ภาพถ่ายกิจกรรมในชั้นเรียน
                        - ผลงานแห่งความภาคภูมิใจ
                        - กิจกรรมในโอกาสพิเศษ เช่น ทัศนศึกษา การแสดงในวันปีใหม่ ฯลฯ




การสนทนา
       การสนาเป็นรูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองที่เข้าถึงและตรงมากที่สุด การสนทนาเป็นแนวทางหนึ่งของการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีเพื่อผู้ปกครอง และช่วยในการให้ความรู้ผู้ปกครองเป็นไปได้อย่างราบรื่น โดยมีวัตถุประสงค์ในการสนทนาดังนี้
  • เพื่อให้ครูและผู้ปกครองได้มีโอกาสพบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเด็ก
  • เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจถึงแนวทางการดำเนินงานของโรงเรียน
  • เพื่อให้ครูและผู้ปกครองได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมเด็กขณะที่อยู่ที่โรงเรียนและที่บ้าน

รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับสถานศึกษา
ห้องสมุดผู้ปกครอง เป็นสถานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารต่างๆ อันเป็นแหล่งเรียนรู้ อีกรูปแบบหนึ่งของการให้บริการเผยแพร่ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ความเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนแปลงที่ทันสมัยสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองได้มีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานของสถานศึกษา การอบรมเลี้ยงดู การส่งเสริมพัฒนาการเด็ก การจัดการศึกษา ซึ่งจะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและส่งผลต่อการจัดการศึกษาของสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพ           
ป้ายนิเป้ายนิเทศในลักษณะนี้เป็นป้ายที่จัดเพื่อให้ความรู้และข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ปกครองทั้งสถานศึกษา ลักษณะของป้ายประกอบด้วย ภาพ ตัวอักษร ของจริง แผนภูมิ สถิติ ฯลฯ ป้ายนิเทศจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ดังนี้
                        - ข้อมูลการดำเนินงานของโรงเรียน เช่น ปรัชญา นโยบาย วัตถุประสงค์ ฯลฯ
                        - ข่าวสารประจำวันจากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร ฯลฯ
                        - ข่าวของสถานศึกษา เช่น การประชุม สัมมนา กิจกรรมต่างๆ
                        - ประกาศต่างๆ ของทางโรงเรียน เช่น วันหยุด นัดประชุมฯลฯ
                        - ข่าวสารบริการต่างๆ เช่น แนะนำสถานศึกษา ข้อมูลกิจกรรมของเด็ก
                        - กิจกรรมของสถานศึกษา เช่น กิจกรรมวันครู วันพ่อ วันแม่ ฯลฯ
                        - ป้ายสำหรับผู้ปกครองในการแสดงความคิดเห็น
นิทรรศการ
เป็นรูปแบบที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของสถานศึกษาให้แก่ผู้ปกครองได้อย่างกว้างขวางรูปแบบหนึ่งด้วยการใช่สื่อหรืออุปกรณ์หลายชนิดในการถ่ายทอดและเผยแพร่ความรู้ ข้อมูลข่าวสารเช่น ภาพเขียน ภาพถ่าย สถิติ หุ่น ผลงานเด็ก ภาพยนตร์ วีดีโอและซีดีซึ่งมีรูปแบบของนิทรรศการที่สามารถจัดได้ในสถานศึกษาดังนี้
                        - นิทรรศการเพื่อการประชาสัมพันธ์
                        - นิทรรศการเพื่อให้ความรู้
                        - นิทรรศการเพื่อความบันเทิง 
มุมผู้ปกครอง
เป็นบริเวณที่สถานศึกษาจัดให้บริการแก่ผู้ปกครองในระหว่างการเยี่ยมชมโรงเรียน การรอรับ-ส่งเด็ก หรือพบปะสังสรรค์ระหว่างผู้ปกครองหรือครู เป้าหมายสำคัญของการจัดมุมผู้ปกครองคือ
- เพื่อให้ผู้ปกครองได้ใช้เวลาว่างระหว่างการรอรับ-ส่งเด็ก ให้เกิดประโยชน์ด้วยการอ่านหนังสือ ฯลฯ
- เป็นบริเวณที่ให้ผู้ปกครองได้สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างผู้ปกครองด้วยกัน
การประชุม
เป็นกิจกรรมหลักของสถานศึกษาที่สามารถใช้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารหรือให้ความรู้แก่ผู้ปกครองได้ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานของถานศึกษาบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมาย จุดประสงค์ของการจัดประชุมผู้ปกครองมีดังนี้
                        - เพื่อแถลงนโยบายการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
                        - แลกเปลี่ยนทัศนคติระหว่าสถานศึกษากับผู้ปกครอง
                        - แจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินงาน
                        - ประสานงานและทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง
                        - สร้างความสามัคคีระหว่างผู้ปกครองกับครู

จุลสาร
เป็นลักษณะของสิ่งพิมพ์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในทุกๆ ด้าน ให้แก่ผู้ปกครองได้รับทราบความเคลื่อนไหวและเพื่อประชาสัมพันธ์ เนื้อหาในจุลสารจะประกอบไปด้วย 4 ส่วน คือ ส่วนของบรรณาธิการ  เรื่องราวของเด็กๆ บทความรู้ และเบ็ดเตล็ด การจัดทำจุลสารเพื่อให้มีความน่าสนใจ
คู่มือผู้ปกครอง
เป็นเอกสารที่ให้ความรู้ผู้ปกครองได้รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา โดยจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มเหมือนหนังสือทั่วไป ข้อมูลในคู่มือผู้ปกครองประกอบไปด้วย
                        - ปรัชญาและเป้าหมายของสถานศึกษา
                        - หลักสูตรและการจัดประสบการณ์
                        - บุคลากรเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรู้ความสามารถ
                        - อาคาร สถานที่ สภาพแวดล้อม
                        - การจัดบริการและสวัสดิการต่างๆ
                        - กฎ ระเบียบ และแนวปฏิบัติ สำหรับผู้ปกครองได้ทราบโดยทั่วกัน
                        - การวัดและประเมินผล
ระบบอินเทอร์เน็ต
เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร เวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ใช้เพื่อการเรียนการสอน และเวิลด์ไวด์เวป  (WWW.)  การใช้อินเทอร์เน็ตในการให้ความรู้ผู้ปกครองนับเป็นบริการด้านหนึ่งที่สถานศึกษาสามารถจัดทำในรูปแบบ เวิลด์ไวด์เวป  บริการให้ความรู้ผู้ปกครองผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่สถานศึกษาบรรจุลงในเว็บไซด์ สามารถให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลสถานศึกษา









สรุป
รูปแบบในการให้ความรู้ผู้ปกครองดังกล่าว สถานศึกษาสามารถจัดให้บริการแก่ผู้ปกครอง โดยมีข้อคิดที่สำคัญคือการคิดหาสื่อและช่องทางที่จะทำให้ความรู้ต่างๆ ถึงผู้ปกครองอย่างถั่วถึง รวดเร็ว และมีการตอบกลับ เพื่อให้สถานศึกษาได้รับรู้ว่าผู้ปกครองตระหนักถึงบทบาทของตนเองต่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กและทำให้การศึกษาระหว่างบ้านและสถานศึกษามีความเข้าใจที่ตรงกัน ทำให้การศึกษาเกิดแนวคิดต่อการพัฒนารูปแบบในการให้ความรู้ผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพมากสูงสุด
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
 เราสามารถความรู้ที่ได้วันนี้นำมาใช้ทำจุลสาร หรือจะเป็นสารในรูปแบบต่างๆเพื่อที่จะให้ผู้ปกครองของเด็กได้ทราบว่าลูกของตนเองได้เรียนอะไรไปและได้ให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในกับทำกิจกรรมกับเด็กได้ที่บ้านได้

การประเมิน
ประเมินตนเอง วันนี้ตั้งใจฟังอาจารย์พูดอธิบายและตั้งใจออกแบบสารรักถึงผู้ปกครองเป็นอย่างดีและให้ความร่วมมือทำกิจกรรมต่างๆเป็นอย่างดี

ประเมินเพื่อน วันนี้เพื่อนๆน่ารักมากทุกคน ทั้งสองเซคอาจจะมีการคุยหรือเล่นกันบ้างแต่ก็สามารถที่จะดึงสมาธิให้กับมาในการเรียนได้

ประเมินอาจารย์  วันนี้อาจารย์มีการเตรียมเนื้อหาในการสอนมาเป็นอย่างดี มีการยกตัวอย่าง เพื่อให้นักศึกษาได้เห็นภาพและเกิดความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น

คำถามท้ายบท
1.รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับชั้นเรียน ครูประจำชั้นควรพิจารณาในการเลือกใช้รูปแบบใดบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ มี3รูปแบบคือ 1 ข่าวสารประจำสัปดาห์ เป็นข้อมูลข่าวสารที่ส่งไปให้กับผู้ปกครองเพื่อให้ได้ความรู้เกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆที่เด็กได้ทำและความรู้อื่นๆที่น่าสนใจและมีกิจกรรมให้ผู้ปกครองได้สามารถทำร่วมกับเด็กได้ในสารที่ส่งให้กับผู้แกครอง

2 จดหมายข่าวและกิจกรรม เป็นการนำเสนอความรู้ที่น่าสนใจให้แก่ผู้ปกครองในชั้นเรียนให้ทราบถึงข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจและมีประโยชน์ต่อเด็ก
3 ป้ายนิเทศให้ความรู้ผู้ปกครอง จัดทำเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครองซึ่งจะสามารถจัดได้บริเวณหน้าชั้นเรียน โดยนำข้อมูลที่มีความรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้ปกครองมาจัดแสดง เพื่อเป็นการสร้างความรู้ให้แก่ผู้ปกครอง
2.รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับสถานศึกษามีรูปแบบใดบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ  ห้องสมุดผู้ปกครอง เป็นสถานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารต่างๆ อันเป็นแหล่งเรียนรู้ อีกรูปแบบหนึ่งของการให้บริการเผยแพร่ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ความเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนแปลงที่ทันสมัยสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง
ป้ายนิเทศ   จัดเพื่อให้ความรู้และข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ปกครองทั้งสถานศึกษา ลักษณะของป้ายประกอบด้วย ภาพ ตัวอักษร ของจริง แผนภูมิ สถิติ
นิทรรศการ  เป็นรูปแบบที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของสถานศึกษาให้แก่ผู้ปกครองได้อย่างกว้างขวางรูปแบบหนึ่งด้วยการใช่สื่อหรืออุปกรณ์หลายชนิดในการถ่ายทอดและเผยแพร่ความรู้ ข้อมูลข่าวสารเช่น ภาพเขียน ภาพถ่าย สถิติ หุ่น ผลงานเด็ก เป็นต้น
มุมผู้ปกครอง เป็นบริเวณที่สถานศึกษาจัดให้บริการแก่ผู้ปกครองในระหว่างการเยี่ยมชมโรงเรียน การรอรับ-ส่งเด็ก หรือพบปะสังสรรค์ระหว่างผู้ปกครองหรือครู
จุลสาร  เป็นลักษณะของสิ่งพิมพ์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในทุกๆ ด้าน ให้แก่ผู้ปกครองได้รับทราบความเคลื่อนไหวและเพื่อประชาสัมพันธ์
คู่มือผู้ปกครอง   เป็นเอกสารที่ให้ความรู้ผู้ปกครองได้รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา โดยจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มเหมือนหนังสือทั่วไป
ระบบอินเทอร์เน็ต   เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร เวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ใช้เพื่อการเรียนการสอน และเวิลด์ไวด์เวป  (WWW.)  การใช้อินเทอร์เน็ตในการให้ความรู้ผู้ปกครอง

3.นักศึกษามีวิธีการหรือแนวทางแก้ปัญหาผู้ปกครองที่ไม่ให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมโครงการหรือกิจกรรมให้ความรู้ผู้ปกครอง จงอธิบาย    
ตอบ การปัญหาโดยการพูดคุยกับผู้ปกครองโดยบอกว่าการที่ผู้ปกครองนั้นไม่ให้ความร่วมมือเข้าร่วมกิจกรรมหรือโครงการนั้นอาจจะทำให้ผู้ปกครองนั้นมีผลเสียและอาจจะมีผลเสียกับลูกด้วย และจะรายงายพฤติกรรมของลูกอย่างต่อเนื่องว่าเด็กมีพฤติกรรมเช่นไร เพื่อที่จะให้ผู้ปกครองให้ความร่วมมือ เพื่อที่จะช่วยกันพัฒนาเด็ก

4.การจัดกิจกรรมการให้ความรู้ผู้ปกครองมีความสำคัญและจำเป็นอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ มีความสำคัญ เพราะ การที่ผู้ปกครองได้รับความรู้หรือข้อมูลที่ถูกต้องและนำไปปฏิบัติกับลูกอย่างเหมาะสมจะทำให้เด็กได้เติบโตอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

5.รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพ มีลักษณะของรูปแบบอย่างไร จงอธิบายพร้อมแสดงความคิดเห็น
ตอบ เลือกข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครองและต้องเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองสามารถเข้าใจได้และเป็นข้อมูลความรู้พื้นฐานที่ผู้ปกครองทุกคนควรจะทราบ